33 ความเชื่อ "เรื่องการแต่งงาน" ในคติของ ฝรั่ง-จีน-ไทย บางอย่างทำสะดุ้งเฮือกมีแบบนี้ด้วยเหรอ???

บอร์ด ความรัก,ความเชื่อquotเรื่องการแต่งงานquotในคติของฝรั่งจีนไทยบางอย่างทำสะดุ้งเฮือกมีแบบนี้ด้วยเหรอ ประสบการณ์ช.. โพสท์โดย ลูกสาวอบตการแต่งงานนั้นบางคนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะบรรดาเจ้าสาว ที่มักจะพิถีพิถันในการจัดงานแต่งงาน แต่นอกเหนือจากความสวยงามเริ่ดหรูอลังการของงานแต่งแล้ว ยังมีคติความเชื่อจากคนโบราณที่ยังต้องยึกถือกัน เพราะได้ชื่อว่าชีวิตคู่ใครๆก็ไม่อยากให้ติดขัด จริงไหม? และวันนี้เรามีคติความเชื่อจาก ทั้ง ฝรั่ง จีน ไทย มาให้ดูกัน ความเชื่อกับการแต่งงานแบบฝรั่ง1. เจ้าสาวห้ามใส่ชุดแต่งงานสีเขียว เชื่อว่าเป็นสีของเทพธิดา ถ้าใส่เชื่อกันว่า พวกเธอจะมาลงโทษที่บังอาจสวมใส่ (ก้อคงไม่มีใครใส่หรอกนะสีเขียวอ่ะ ไม่ได้พูดถึงชุดไทยนะ ชุดงานเลี้ยงสีเขียว คงแปลกดี)2. ถ้าเจ้าสาวถูกปลุกให้ตื่นในเช้าวันแต่งงานด้วยเสียงของนก ถือว่าเป็นนิมิตที่ดี3. ถ้าพบแมงมุมในกระโปรง เธอจะมีความสุขในชีวิตแต่งงานตลอดไป (อ้าว ใครอยากโชคดี มารับแมงมุมจากที่บ้านเราได้ พร้อมยักไย่ คิกๆ)4. ผู้หญิงที่ถูกขอให้เป็นเพื่อนเจ้าสาวถึง 3 ครั้ง เชื่อว่าจะไม่ได้เป็นเจ้าสาว5. ช่อดอกไม้ของเจ้าสาวที่ถูกโยนในงานแต่งงาน ถ้าผู้หญิงคนไหนได้รับจะได้แต่งงานในไม่ช้า6. ถ้ามีแมวดำมาคลอเคลีย เธอจะโชคดีเป็นพิเศษ7. เจ้าสาวห้ามทำของตกแต่ง โดยเฉพาะกระจก หรือทำส้นรองเท้าหัก8. พี่กับน้อง ควรแต่งงานกันคนละปี อย่าจัดงานแต่งในปีเดียวกันหรือในวันเดียวกัน เพราะจะทำให้ทั้งสองครอบครัว มีแต่เรื่องร้ายๆ ไม่สิ้นสุด9. เรื่องเค้กแต่งงาน9.1. ให้กินขนมเค๊กแต่งงาน ชิ้นที่เจ้าภาพแจกให้ โดยกินคนเดียวตามลำพัง อย่าให้ใครมาชิมของเราแม้แต่คำเดียว และเราต้องไม่ไปชิมเค๊กของคนอื่นด้วย9.2. ไปที่โต๊ะซึ่งตั้งเค๊กแต่งงาน หยิบเศษขนมเค๊กชิ้นเล็กๆ มาหนึ่งชิ้น ถอดแหวนที่เราสวมประจำออกมา นำเศษขนมเค๊กลอดแหวน 9 ครั้ง พลางอธิษฐานขอให้ได้พบคู่ และได้เข้าพิธีวิวาห์ในเร็ววัน แค่สองขั้นตอนนี้แหละที่จะต้องทำอย่างจริงใจ แล้วเราจะได้พบเนื้อคู่และได้แต่งงานอย่างมีความสุข ภายในเวลา 1 ปี นับจากนั้น10. ในงานแต่งงานนั้น จะอบอวลไปด้วยพลังแห่งความรัก ถ้ามีโอกาสได้ไปงานแต่ง ให้เก็บดอกไม้มาสักช่อหนึ่ง เด็ดกลีบดอกไม้ทั้งหมดใส่ในโถแก้วปากกว้างๆ เติมน้ำลงไปสักครึ่งหนึ่ง เติมน้ำตาลลงไป 2 ช้อนโต๊ะ และใส่ลูกปัดสีแดงลงไป 9 เม็ด นำโถแก้วกลีบดอกไม้มาวางไว้ที่ข้างๆเตียงเป็นเวลา 3-5 วัน แล้วเราจะต้องประหลาดใจกับความรักที่หวานชื่นขึ้น ส่วนคนโสดก็จะพบรักอย่างแน่นอน11. เจ้าสาวควรก้าวเท้าขวาเข้าโบสถ์12. ถ้าเจ้าบ่าวทำแหวนหล่น หรือสวมแหวนบนนิ้วเจ้าสาวไม่สุด หรือต้องให้เธอช่วยสวม เค้าจะต้องตกอยู่ในอำนาจของเจ้าสาวตลอดชีวิต (อุว้าว รีบเลยๆ จำไว้ๆ เจ้าสาว ข้อนี้น่านำไปใช้)13. ถ้าเจ้าสาวเห็นเจ้าบ่าวก่อนที่เค้าจะเห็นเธอ เธอจะมีอำนาจเหนือเขา ตลอดชีวิตการแต่งงาน ความเชื่อเรื่องประเพณีแต่งงานจีน1. เชื่อกันว่า ถ้าคู่รักอายุห่างกัน 6 ปี ดวงจะชง ห้ามแต่งงานกัน เพราะถึงแต่งไปก็ไม่ดี2. เมื่อเจ้าบ่าวยกขันหมากมา พ่อแม่เจ้าสาวต้องหลบไปก่อน ห้ามประจันหน้ากับเจ้าบ่าว และขบวนขันหมาก เพราะถือว่าอีกหน่อยจะไม่ลงรอยกัน3. ซินแสจะกำหนดว่าคนเกิดราศีใดบ้างที่เป็นกาลกิณี คนราศีนั้นต้องหลบหน้าไปจาก พิธีรับตัวเจ้าสาว4. เจ้าสาวต้องซื้อหวี 4 เล่ม เอาเคล็ดคำมงคลว่า "ซี้ซี้อู่หอซิว" แปลว่า จะได้รับทรัพย์ตลอดเวลา5. แม่สามีสมัยก่อนมักหาจังหวะดีๆ แอบกดหัวเจ้าสาว เพื่ออีกหน่อยตนจะได้เป็นฝ่ายคุมลูกสะใภ้6. ก่อนอนออกจากบ้าน เจ้าสาวต้องถอดตุ้มหูออก เพราะเชื่อว่าตุ้มหูจะถ่วงความเจริญ และรั้งเจ้าสาวไว้กับบ้านเก่า เมื่อไปถึงบ้านเจ้าบ่าวจึงจะสามารถใส่ได้7. เมื่อเจ้าสาวจะเข้าบ้านฝ่ายชาย มีธรรมเนียมจีนโบราณอยู่ว่า ให้เจ้าบ่าวเอามือเท้าประตู แล้วให้เจ้าสาวมุดเข้าไป เป็นเคล็ดว่าให้ภรรยาอยู่ใต้อำนาจสามี8. คู่แต่งงานใหม่ให้วางส้มเช้ง 2 ลูก ไว้หัวแตียง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ได้ลูกชาย9. ในงาน ตึ่งฉู่ บางบ้านจะมีธรรมเนียมที่อนุญาตให้ฝ่ายเจ้าสาว เอาสิ่งของ ของฝ่ายชาย เช่นเอารองเท้าไปซ่อน เพื่อเรียกอั่งเปาเป็นการไถ่คืน10. คนจีนไม่นิยมแต่งงานช่วงกินเจ เพราะเป็นช่วงที่ทั้งประตูสวรรค์ และประตูนรกเปิดทำให้อาจมีสิ่งไม่ดีเข้ามาใน งานมงคล และติดตัวไปตลอด ชีวิตการแต่งงาน ความเชื่อเรื่องประเพณีแต่งงานไทย1. ต้องมีการดูฤกษ์ยามตั้งแต่ วันที่ส่งเฒ่าแก่ไป เจรจาสู่ขอ วันหมั้น วันแต่งงาน รวมไปถึงฤกษ์ในการปลูกเรือนหอ ส่งตัวเจ้าสาว และฤกษ์เรียงหมอน2. ความเชื่อเกี่ยวกับการตักบาตรของคู่บ่าวสาว ถ้าผู้ใดจับที่ยอดหรือคอทัพพี ผู้นั้นจะได้เป็นใหญ่เหนือกว่าคู่ของตนวิธีแก้เคล็ดด้วยการผลัดกันจับที่คอ ทัพพีอย่างนี้ ก็ไม่มีใครเหนือใคร เสมอภาคแบบนี้ดีกว่า3. การนิมนต์พระมาสวด แต่ก่อนนิยมมาเป็นคู่ เช่น 4 หรือ 8 องค์ แต่ปัจจุบันนิยม 9 องค์ เพราะคนไทยเชื่อถือเกี่ยวกับตัวเลข 9 ว่าเป็นเลขมงคล หมายถึงความเจริญก้าวหน้า โดยนับพระประธานเป็นองค์ที่ 10 ครบจำนวนคู่พอดี4. การเลือกเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว มีคติความเชื่อว่า ควรเลือกที่อายุน้อยหรือใกล้เคียงกับคู่บ่าวสาว และในช่วงที่ใกล้หรือมีโครงการจะแต่งงานเร็วๆ นี้ เพราะหากว่าเป็นคนโสดอาจจะต้องกลายเป็นเพียงเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันไปตลอด ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวตัวจริงกันเสียที (แต่ความจริงแล้วอาจเป็นเพราะผู้ใหญ่ต้องการให้ผู้ที่ใกล้แต่งงานได้ดูขั้น ตอนการแต่งงาน เมื่อถึงคราวตนเองจะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกต้องและไม่เคอะเขิน)5. เกี่ยวกับพิธีรดน้ำสังข์ คือหลังจากพิธีรดน้ำสังข์เสร็จแล้ว หากฝ่ายใดลุกขึ้นยืนก่อน ฝ่ายนั้นจะได้เป็นผู้ที่อยู่เหนือคู่ครองของตน (หลังจากเสร็จพิธีรดน้ำ ควรช่วยกันประคองกันลูกขึ้น แบบนี้จะดูน่าประทับใจ แล้วยังเป็นการแก้เคล็ดด้วยค่ะ)6. ส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าหอ การปูที่นอนจะเชิญเฒ่าแก่ชายและหญิง ซึ่งจะเชิญผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพ แต่งงานครองเรือนกันมานานจนแก่จนเฒ่า มีลูกหลานสืบสกุล และฐานะดีมาเป็นเฒ่าแก่ทำการปูที่นอนให้ เพราะมีความเชื่อว่าคู่บ่าวสาวจะได้ครองเรือนกันอย่างมีความสุขเหมือนคู่ ผู้ใหญ่ที่ทำการปูที่นอนให้7. ห้ามไม่ให้มีแกงบวน ต้มยำ และผักยำ ตลอดจนแกงร้อน เพราะชื่อของมันไม่ดี เป็นบวนๆ ยำๆ กระเดียดใกล้เข้าไปว่า ระยำและร้อนๆ ความเชื่อเรื่องเพื่อนเจ้าสาว1. สาเหตุที่งานแต่งต้องมีเพื่อนเจ้าสาวเพราะในสมัยก่อนนั้นหญิงสาวโดยทั่ว ๆ ไปที่จะออกเรือนมักจะมีผู้หลักผู้ใหญ่เป็นคนเตรียมการให้ ในขณะที่เพื่อนเจ้าสาวนั้น ก็มาอยู่เพื่อเป็นเพื่อนเจ้าสาวเฉย ๆ เท่านั้น เพราะในสมัยก่อน ผู้หญิงไทยไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเที่ยวเล่นนอกบ้านมากนัก ดังนั้นเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ผู้หญิง และมักจะอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันด้วย2. ในขณะที่ต่างประเทศนั้นสันนิษฐานว่า เป็นการสืบทอดประเพณีมาตั้งแต่ยุคโรมัน เพราะในยุคนั้นมีการกำหนดให้ในพิธีแต่งงานต้องมีผู้ร่วมพิธีอย่ างน้อย ๆ สิบคน เพราะเขา เชื่อกันว่าหญิงสาวที่จะเข้าประตูวิวาห์นั้นอาจจะเป็นที่ริษยา อิจฉาจากเหล่าปีศาจได้ ดังนั้นจึงมีการเชื้อเชิญให้มีผู้มาร่วมงานเพื่อเป็นการล่อหลอก ปีศาจให้สับสนนั่นเอง โดยในการเลือกเพื่อนเจ้าสาวนั้น จำเป็นต้องเลือกเพื่อนเจ้าสาวที่มีใบหน้าละหม้ายคล้ายเจ้าสาวที่สุด นอกจากนี้เพื่อนเจ้าสาวจะต้องแต่งตัวคล้ายคลึงกับเจ้าสาวด้วย เพื่อเป็นการสับขาหลอกปีศาจที่อิจฉาความโชคดีของเจ้าสาวนั่นเอง3. นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกด้วยว่า หากเพื่อนเจ้าสาวที่กำลังอยู่ในพิธีแต่งงานเดินสะดุดระหว่างล่ะ ก็ เธอจะโชคร้ายอดแต่งงานไปเลยทีเดียว ในขณะที่หากเธอเป็นเพื่อนเจ้าสาวมาถึงสามงานเธอก็จะอดแต่งงานเช ่นกัน แต่ถ้าหากเธอได้เป็นเพื่อนเจ้าสาวต่อไปอีกสี่ครั้งเธอก็จะได้แต่งงาน (ถือเป็นการแก้เคล็ด) เป็นไงกันบ้างฮะ อ่านแล้วมึนเลยใช่ไหม แหม่ๆถ้าใครจะถือเคล็ดทุกๆข้อนี้เพื่อความสบายใจก็ไม่ว่ากันนะฮ้าฟ